สมมติจากการส่งสูงสุด 750 บาท โดยเปอร์เซนต์เหล่านี้จะคิดจากฐานเงินเดือน 15, 000 บาท 0. 5% = 75 บาท ประกันการว่างงาน 3% = 450 บาท ประกันชราภาพ 1. 5% = 225 บาท ประกันการเจ็บป่วยและเสียชีวิต ซึ่งเงินประกันชราภาพ บริษัทจะจ่ายสมทบให้เราเท่ากับจำนวนที่เราจ่ายด้วย อย่างในตัวอย่างที่เราจ่าย 450 บาท บริษัทก็จะสมบทให้อีก 450 บาท ประกันสังคมจะหักไว้เป็นเงินออมและเราก็จะได้รับเมื่ออายุครบ 55 ปี แต่จำนวนเงินที่ได้รับ จะขึ้นอยู่กับระยะเวลาการจ่ายของเรา โดยมีเงื่อนไข และตัวอย่างการคำนวน ดังนี้ 1. กรณีจ่ายประกันสังคมไม่ครบ 1 ปี เช่นจ่ายเพียง 10 เดือน เมื่ออายุครบ 55 ปี จะได้เงินออม จำนวน 450×10 เท่ากับ 4, 500 บาทเท่านั้น แต่จะไม่ได้เงินที่บริษัทสมทบให้ทุกเดือน ซึ่งเงินที่ได้รับนี้เรียกว่า "บำเหน็จชราภาพ" 2. กรณีจ่ายประกันสังคมครบ 1 ปีแต่ไม่ถึง 15 ปี เมื่ออายุครบ 55 ปี จะได้เงินที่เรียกว่า "บำเหน็จชราภาพ" เช่นกัน แต่จะได้ในส่วนที่บริษัทสมทบให้ด้วย เช่น จ่ายเงินประกันสังคมมา 10 ปี ก็จะได้เงินออมเดือนละ 450 บาทเท่ากับ 450×120 เดือนเท่ากับ 54, 000 บาท รวมกับที่บริษัทสมทบให้ 10 ปีเท่ากับ 450×120 เดือน ก็จะได้อีก 54, 000 บาท เงินที่ได้รับทั้งหมดก็คือ 108, 000 บาท 3.
20 ก. ค. 2564 เวลา 15:21 น.
5% ค่าดูแลเรื่องเจ็บป่วย คลอดบุตร และตาย ถ้าไม่ใช้สิทธิ เงินส่วนนี้ก็จะหายไป ไม่ได้คืน 75 บาทหรือ 0.
ในกรณีคลอดบุตร ทางโรงพยาบาลบริการคลอดให้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่ใน กรณีที่ผู้ประกันตนฝากท้องกับหมอคลีนิคแล้วไปคลอดที่โรงพยาบาลโดยการผ่าตัด กรณีอย่างนี้ผู้ประกันตนต้องชำระค่าคลอดบุตรด้วยหรือไม่ คำตอบ ผู้ประกันตนต้องชำระตามจริง สำนักงานประกันสังคมจะเหมาจ่ายให้ผู้ประกันตน จำนวน 13, 000 บาทต่อบุตรหนึ่งคน 11. กรณีลูกจ้างคลอดบุตรภายใน 6 เดือน หลังจากออกจากงาน จะใช้สิทธิกรณีคลอดบุตรได้หรือไม่ คำตอบ จะใช้สิทธิได้หรือไม่ จะต้องตรวจสอบการส่งเงินสมทบย้อนหลังไป 15 เดือนก่อนที่ผู้ประกันตนจะออกจากงาน ว่าผู้ประกันตนมีการนำส่งเงินสมทบครบ 5 เดือนหรือไม่ ถ้าครบตามหลักเกณฑ์ก็ใช้สิทธิกรณีคลอดบุตรได้ 12. ผู้ประกันตนเป็นชาย จดทะเบียนสมรสกับภรรยาเดิม แต่มามีบุตรกับภรรยาใหม่ช่าวต่างชาติ โดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส มีสิทธิได้รับเงินค่าคลอดบุตรและเงินสงเคราะห์บุตรหรือไม่ คำตอบ ผู้ประกันตนชายไม่สามารถเบิกกรณีคลอดบุตรและกรณีสงเคราะห์บุตรได้ เนื่องจากติดทะเบียนสมรสกับภรรยาคนแรก 13. ผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ไม่ได้ทำงาน ไม่ใช่ผู้มีรายได้สามารถใช้สิทธิเบิกเงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อการคลอดบุตรได้หรือไม่ คำตอบ สามารถใช้สิทธิได้ เนื่องจากเป็นการเหมาจ่ายเงินรวมกับค่าคลอดบุตร โดยผู้ประกันตนตามมาตรา 39 จะได้รับเงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อการคลอดบุตรเป็นจำนวน 7, 200 บาท หากมีข้อ สง สัยเกี่ยวกับสิ ทธิประโยชน์ที่คุณจะได้รับ หรือทุกเรื่องเกี่ยวกับประกันสังคม สามารถสอบถามได้ที่สำนัก งานประกันสังคมประจำจังหวัด หรือ สายด่วน1506 เรียบเรียงโดย: Mamaexpert Editorial Team ขอบคุณข้อมูล: สำนักงานประกันสังคม
© Matichon ภาพประกอบข่าว ผู้ประกันตน ม. 33-39 และ ม. 40 รัฐเคาะวัน จ่ายเงินแล้ว นายจ้างสูงสุดแห่งละ 6 แสนบาท ลูกจ้าง 10 จังหวัด รอรับโอน 2, 500 บาท วันที่ 6 สิงหาคม 64 วันที่ 20 กรกฎาคม 2564 แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ครม.
สวัสดีครับ วันนี้ จะมาไขข้อข้องใจในเรื่องฮอตฮิตที่มนุษย์เงินเดือนทั้งหลายต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกัน ว่าทำไมต้องจ่ายประกันสังคม จ่ายก็ไม่ได้ใช้ แล้วทำไมแต่ละคนจ่ายไม่เท่ากัน แบบนี้เอาเปรียบกันรึเปล่า!!!
เวลาที่คุณทำงานบริษัท เงินเดือนของคุณทุกเดือน จะถูกหักเข้ากองทุนประกันสังคม ทุกเดือน บริษัทจะหักเงิน 5% ของเงินเดือนของคุณ โดยเงินเดือนขั้นสูงสุดที่หักได้คือ 15, 000 บาท ซึ่งจะเป็นจำนวนเงิน 750 บาท ทราบหรือไม่ว่าเงินที่ถูกหักไปนี้ มันไปอยู่ที่ไหนบ้าง?? โดยใน 5% ดังกล่าวจะประกอบด้วย (คิดในกรณีเงินสูงสุด 750 บาท) ทราบหรือไม่ว่าเงินที่ถูกหักไปนี้ มันไปอยู่ที่ไหนบ้าง?? โดยใน 5% ดังกล่าวจะประกอบด้วย (คิดในกรณีเงินสูงสุด 750 บาท) 1. 5% = 225 บาท จะนำไปประกันเจ็บป่วย ตาย 0. 5% = 75 บาท จะนำไปประกันการว่างงาน 3% = 450 บาท จะนำไปประกันชราภาพ สรุปว่าคุณจะถูกหักเป็นเงินออมชราภาพทุกเดือน ๆ ละ 450 บาท ปีละ 5, 400. -บาท โดยผลประโยชน์ที่ได้รับจากการออมเงิน 1 ปี 5, 400 บาท คือท่านจะได้เงินสบทบอีก 100% จากนายจ้างอีก 5, 400 บาท และยังได้ดอกเบี้ยจากประกันสังคม ในแต่ละปี ที่คุณส่งเงินสมทบอีกด้วย สมมติคุณส่งเงินปี 50 และ ปี 51 ได้ดอกเบี้ย 4. 2% และ 4.