การกล่าวเปิด ก่อนที่พิธีทางการจะเริ่มต้น พิธีกรงานแต่งจะแจ้งให้แขกทั้งหลายได้ทราบว่างานจะเริ่มในเวลาอันใกล้ รวมไปถึงเปิดวิดีโอเกี่ยวกับคู่บ่าวสาว เพื่อให้แขกได้รับชม จากนั้นเจ้าภาพก็จะกล่าวเปิดงานอย่างเป็นทางการแบบเรียบง่าย ในขณะที่แขกต่างพากันปรบมือ 2. การจุดเทียน ช่วงเวลานี้ เมื่อแม่ของบ่าวสาวเดินเข้ามาในงานและจุดเทียน (แม่เจ้าบ่าวก่อน ตามด้วยแม่เจ้าสาว) โดยความหมายของการจุดเทียนนี้เปรียบเสมือนเป็นการให้แสงสว่าง รวมไปถึงการนำความสุขมาให้คู่แต่งงาน หลังจากที่จุดเทียนเรียบร้อย แม่ของทั้งสองฝ่ายจะทำการโค้งให้แก่กัน เป็นตัวแทนของ 2 ครอบครัว cr: โจซอนอิลโบ 3. แนะนำพิธีกร ช่วงนี้จะเป็นการแนะนำพิธีกรของงาน หากไม่มีพิธีกรอย่างเป็นทางการก็สามารถที่จะข้ามขั้นตอนนี้ไปได้ 4. เจ้าบ่าวเดินเข้างาน เมื่อพิธีกรกล่าวเชิญ "เจ้าบ่าว" ให้เข้างาน เจ้าบ่าวจะเดินบนพรมแดงเพื่อเดินเข้างาน ปกติแล้วเจ้าบ่าวจะเดินและทักทายแขก เปรียบเสมือนกับเป็นดวงดาวของงาน แต่เจ้าบ่าวบางคนตื่นเต้นมากเกินไป ตาจึงมองไปที่ด้านหน้าเพียงอย่างเดียว เมื่อเดินไปถึงยังที่แล้ว เจ้าบ่าวจะทำการโค้งให้กับผู้ทำพิธี จากนั้นหันหลังกลับมาเพื่อโค้งให้กับแขก ก่อนที่จะยืนเพื่อรอให้เจ้าสาวเดินเข้างาน 5.
เจ้าสาวเดินเข้างาน เจ้าสาวสามารถที่จะเรียกเป็นตัวเอกของงานแต่งงานเกาหลีได้เลย เจ้าสาวส่วนมากจะเดินลงมาจากบันไดหรือใส่ผ้าคลุมและปรากฏตัวบนเวที ดังนั้นทุกคนจึงสามารถที่จะโฟกัสที่เจ้าสาวคนเดียวได้ ปกติแล้วเมื่อเจ้าสาวเดินขึ้นเวที จะควงแขนพ่อของเธอเข้ามา พร้อมกับเดินไปหาเจ้าบ่าว หลังจากที่เจ้าบ่าวและพ่อเจ้าสาวทำการทักทายกันเรียบร้อยแล้ว พ่อเจ้าสาวจะยื่นมือเจ้าสาวให้กับเจ้าบ่าว (ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ซึ้งมากที่สุดในงานเลย และครอบครัวเจ้าสาวก็มักที่จะร้องไห้ด้วยความตื้นตันกัน โดยเฉพาะแม่เจ้าสาว ผู้ทำหน้าที่จุดเทียน) 6. เจ้าบ่าวและเจ้าสาวโค้งให้กัน ในขั้นตอนนี้เจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะทำการโค้งให้กัน แต่ก่อนอื่นจะทำการโค้งให้กับผู้ทำพิธีก่อน จากนั้นโค้งให้กันที่ด้านหน้าของครอบครัวและแขกที่มาร่วมงาน การโค้งให้กันนั้น เจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะโค้งในลักษณ์ 45 องศา ในขณะที่รักษาระยะห่างในการยืนเอาไว้ SBS 7. อ่านคำสัญญาและประกาศแต่งงาน ขั้นตอนนี้ เจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะให้คำมั่นสัญญากันต่อหน้าผู้ทำพิธีว่าจะรักและเคารพกันตลอดไป จากนั้นผู้ทำพิธีจะอ่านประกาศการแต่งงาน หลังจากอ่านประกาศเรียบร้อยก็จะถือว่าเจ้าบ่าวและเจ้าสาวได้แต่งงานกันเรียบร้อย หากไม่มีผู้ทำพิธี คู่แต่งงานจะทำการแลกเปลี่ยนของแทนใจ (แหวน) ผู้เป็นพ่อหรือพิธีกรของงานจะเป็นผู้อ่านประกาศการแต่งงาน 8.
ไม่ว่าคุณต้องไปทำหน้าที่เพื่อนเจ้าสาว หรือแค่ไปงานปาร์ตี้สวยๆ ขอแค่สวม wrist corsage หรือ "ช่อดอกไม้ผูกข้อมือ" ไปด้วย รับรองจะไฮโซดูแพงขึ้นมาทันตา ช่อดอกไม้ผูกข้อมือนั้นคุณเองก็ทำได้ ขอแค่รู้วิธี จะได้ไม่ต้องหาซื้อให้เปลืองเงิน แถมทำเองก็ดีไซน์ให้สวยแปลกได้ตามใจชอบ จะทำเผื่อเพื่อนด้วยก็ยิ่งดี วิธีการ 1 ของ 2: ช่อดอกไม้แบบดั้งเดิม 1 เลือกธีมสี. เลือกคู่สีที่เข้ากันและขับกันให้ยิ่งโดดเด่น ลองพิจารณาเลือกสีที่ปรากฏในเดรสหรือสูทที่ใส่ ที่สำคัญคือธีมสีที่เลือกต้องเหมาะสมกับงานที่จะไป ถ้าไปงานโรงเรียน ก็เอาสีประจำโรงเรียนมาใช้ซะเลย หรืออ้างอิงจากวงล้อสีที่มัณฑนากรเขานิยมใช้กันก็ได้ เผื่อจะได้แรงบันดาลใจดีๆ เช่น เลือกคู่สีที่ตรงข้ามกันในวงล้อ อย่างเหลืองกับม่วง หรือฟ้ากับส้ม เป็นต้น 2 เลือกดอกไม้. ซื้อดอกไม้ (หรือตัดจากที่ปลูกไว้) ที่เกือบจะบาน แล้วแช่น้ำไว้ก่อนเอามาจัดช่อ ปกติจะใช้ประมาณ 3 - 5 ดอก แล้วแต่ขนาด ให้เลือกดอกไม้ที่ทนทานชูช่อได้หลังคุณสวมใส่ไปพักใหญ่ จบงานแล้วก็ยังดูดี อย่าเลือกดอกไม้บอบบางช้ำง่าย เช่น ดอกทิวลิป เป็นต้น ดอกไม้ที่แนะนำให้นำมาจัดช่อผูกข้อมือก็เช่น กุหลาบ เดซี่ กล้วยไม้ ลิลลี่ Cymbidium 3 เลือกดอกแซม.
Blogs ช่อดอกไม้งานแต่ง มีแบบไหนบ้าง เลือกอย่างไรให้เหมาะสม? ช่อดอกไม้งานแต่ง อาจเป็นเพียงช่อดอกไม้ทั่วไปสำหรับสาวที่ยังไม่มีโอกาสเข้าเรือนหอ แต่ถ้ากำลังจะกลายมาเป็นเจ้าสาว ช่อดอกไม้ถือเป็นส่วนสำคัญ เพราะจะช่วยขับออร่าของเจ้าสาวให้เฉิดฉายมากขึ้นขณะเดินเข้างาน ฉะนั้น แบบช่อดอกไม้งานแต่งต่อไปนี้ จะช่วยให้บรรดาเจ้าสาวตัดสินใจเลือกช่อดอกไม้ที่เหมาะกับตัวเองได้ง่ายขึ้น ก่อนซื้อ ช่อดอกไม้งานแต่ง ต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง?
กล่าวคำอวยพร พยาน (ผู้ทำพิธี) จะกล่าวอวยพรให้กับชีวิตคู่ในอนาคตของคู่แต่งงาน หากกรณีที่ไม่มีผู้ทำพิธี พ่อของทั้งสองฝ่ายจะเป็นผู้อวยพรให้กับทั้งคู่แทน หรือบางคู่อาจข้ามช่วงนี้ไป 9. การแสดง เพื่อเป็นการยินดีกับคู่บ่าวสาว เพื่อนของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะเตรียมการแสดงไม่ว่าจะเป็นร้องเพลง, เต้นหรือแม้แต่เล่นดนตรีก็ตาม บางครั้งบ่าวสาวก็ร่วมทำการแสดงด้วยตนเองเช่นกัน เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยเห็นกันแล้วในเวลาที่เหล่าไอดอลไปร่วมยินดีงานแต่งงานของสตาฟหรือครอบครัว ก็มักที่จะทำการแสดงให้พวกเขา จริงๆแล้วถือว่าเป็นช่วงพีคของงานเลยก็ว่าได้ เพราะผู้ที่ทำการแสดงส่วนมากสวยหล่อกันทั้งนั้น>< เมื่อตอนที่เราไปทำหน้าที่พิธีกร เขาเคยพบนักร้องเดินทางมาเพื่อร้องเพลงให้กับคู่บ่าวสาวด้วย cr: โจซอนอิลโบ 10. โค้งคำนับพ่อแม่และแขก ก่อนอื่น บ่าวสาวคู่ใหม่จะทำการโค้งคำนับพ่อแม่ของฝ่ายสาวก่อน จากนั้นก็ทำการคำนับพ่อแม่ฝ่ายชาย โดยปกติแล้วเจ้าบ่าวจะทำการคำนับอย่างเป็นทางการ (คำนับตามประเพณีเกาหลีโบราณ) แต่ฝ่ายสาวมักจะโค้งเพียงเท่านั้น เนื่องจากชุด หลังจากที่ทำการคำนับพ่อแม่เรียบร้อยแล้ว ทั้งคู่ก็จะทำการโค้งให้กับแขกที่เดินทางมาร่วมงาน และบอกกับแขกว่า พวกเขาจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในอนาคต และช่วงเวลานี้ แขกก็จะปรบมือให้อย่างอบอุ่น 11.
เอาไว้เสริมดอกหลัก ช่อผูกข้อมือจะได้ดูเต็มๆ ไม่โหรงเหรง แถมเล่นสีกันด้วย ดอกไม้ที่น่าจะเอามาทำดอกแซมก็เช่น ยิปโซ (Baby's breath หรือ gypsophila) ใบเฟิร์น ยูคาลิปตัส 4 เลือกสายผูก/รัดข้อมือ. ถ้าดอกไม้เป็นเหมือนนางเอกของช่อผูกข้อมือ สายรัดก็เป็นพระเอกที่เพิ่มความสวยงามโดดเด่นได้อีกทาง อุปกรณ์ที่นำมาทำสายรัดข้อมือได้ก็เช่น ซื้อกำไลแบบมีแป้นสำหรับติดดอกไม้หรือของตกแต่งอื่นโดยเฉพาะ ใช้ริบบิ้นหรือแถบลูกไม้ทำสายผูกข้อมือ ใช้สายรัดหรืออะไรที่ใช้ผูกข้อมือได้ 5 หรือใช้เครื่องประดับจริงๆ ถ้ามีและชอบ. จะได้วิบวับชวนมอง สวยหรูดูดีไปอีกแบบ สร้อยลูกปัด สร้อยมุก แถบลูกไม้ 6 ตัดก้านดอกไม้ให้สั้น. ให้เหลือใต้ดอกลงไปประมาณ 1/2 - 1 นิ้ว (1 - 2. 5 ซม. ) ตัดด้วยคีมตัดลวดหรือกรรไกรจนแต่ละก้านยาวเท่ากัน ถ้าดอกไหนก้านสั้นไปให้พันลวดเข้าไป 7 พันทุกก้านด้วยลวดและเทปพันดอกไม้. จะได้ดัดก้าน จัดดอกไม้ให้บิดงอได้ตามต้องการ เริ่มพันจากบนลงล่าง พันเทปแนวเฉียง เหมือนลายในแถบหมุนๆ หน้าร้านตัดผม พันเทป 2 ทับรอบจนมิดก้าน [1] 8 ประกอบช่อดอกไม้ผูกข้อมือ. พันดอกหลักทั้งหมดเข้าด้วยกันเป็นช่อด้วยเทปพันดอกไม้ พันเฉียงแบบที่บอก พันดอกแซมแยกอีกช่อ โดยใช้เทปพันดอกไม้พันเฉียงตามเดิม พันดอกไม้ 2 ช่อเข้าด้วยกันโดยใช้ลวดพันดอกไม้ ติดเครื่องประดับเพิ่มเติมโดยใช้ลวดพันดอกไม้ 9 ใส่สายรัดข้อมือเข้าไปตรงกลางระหว่าง 2 ส่วน.
เวลาไปงานแต่งงานสิ่งที่สาวโสดรอคอยก็คือตอนที่เจ้าสาวโยนช่อดอกไม้ เค้าว่ากันว่า... สาวโสดคนไหนที่รับช่อดอกไม้ของเจ้าสาวได้ ปีหน้าจะได้แต่งงาน! (จริงรึป่าว? ) ใครรู้ว่าจริงๆเป็นยังไงตอบด้วยค่ะ เลยอยากมาถามสาวจีบันว่ามีใครเคยรับช่อดอกไม้เจ้าสาวได้บ้าง แล้วเชื่อว่าจะได้แต่งงานในปีถัดไปจริงรึป่าว? ใครที่เคยได้รับดอกไม้ก็เข้ามาแชร์ประสบกาณ์กันหน่อยนะคะ ส่วนคนที่ไปงานแต่งแต่ไม่เคยได้ดอกไม้ แล้วอยากได้... เข้ามายกมือกันด้วยจ้า (ใครยกมือขอให้ได้รับช่อดอกไม้เจ้าสาวครั้งต่อไปเลย) สาธุ! Jebanista คุณก็เป็นได้! มีรีวิว หรือ How to อะไรเอามาแชร์กัน ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ JEBAN COMMUNITY ได้ง่ายนิดเดียว เริ่มเขียนเลย
นอกจากงานแต่งงานจะต้องการเพลงรักหวานซึ้ง มาช่วยสร้างบรรยากาศภายใน งานแต่งงาน ให้อบอวลไปด้วยความรักความโรแมนติกชนิดที่น้ำตาลเรียกพี่แล้ว บ่าวสาวยังต้องมีเพลงสนุกๆ ลิสต์เอาไว้เปิดในช่วงเวลาที่ต้องการความสนุกสนานอย่างช่วงกั้นประตูเงินประตูทอง "โยนช่อดอกไม้" หรือไม่ก็เอาไว้เปิดแซวเพื่อนเจ้าบ่าว-เพื่อนเจ้าสาวที่ยังโสด งานแต่งงานจะได้มีหลายสีสัน ไม่น่าเบื่อ ซึ่งหากคุณยังไม่รู้จะใช้เพลงไหน วันนี้ Happy เราเตรียมเพลงรักสนุกๆ เอาไว้ให้แล้ว บ่าวสาวคนไหนอยากให้งานแต่งงานมีบรรยากาศที่หลากหลาย เตรียมลิสต์เพลงเหล่านี้เอาไปอัพเดทในงานแต่งของตัวเองกันได้เลย 1. Marry You-Bruno Mars หนุ่มๆ ฟังแล้วแทบจะรีบออกไปแย่งช่อดอกไม้เจ้าสาวเลยล่ะค่ะ เพราะเนื้อหาของเพลงนี้โดยรวมกล่าวถึงความรู้สึกที่ "อยากแต่งงานบ้างแล้วล่ะ ตอบตกลงกันเถอะนะ" เพราะงั้นเพลงนี้จึงเป็นเพลงสนุกๆ เพลงหนึ่งที่ฮิตใน งานแต่งงาน เปิดได้ตลอดไม่มีเบื่อ It's a beautiful night มันเป็นค่ำคืนที่แสนงดงาม We're looking for something dumb to do. เรากำลังหาอะไรบ้าๆทำกันอยู่ Hey baby เฮ้ ที่รัก I think I wanna marry you. ฉันว่าฉันอยากแต่งงานกับเธอแหละ 2.