โรคมินามาตะ บัญชีจำแนกและลิงก์ไปภายนอก ICD - 10 T 56. 1 ICD - 9 985. 0 MedlinePlus 001651 โรคมินามาตะ ( ญี่ปุ่น: 水俣病 โรมาจิ: Minamata-byō) เป็นชื่อ โรค ที่เกิดจากพิษจาก สารปรอท โดยมีอาการของเด็กขาดสารอาหาร มีอาการวิกลจริตอย่างอ่อน ๆ กรีดร้อง นัยน์ตาดำขยายกว้างเล็กน้อย ลิ้นแห้ง แต่ไม่พบสาเหตุของการผิดปกติ แขนขาเคลื่อนไหวลำบาก มีการกระตุกตัวแข็ง แขนขาบิดงออย่างรุนแรง เพราะโรคนี้แสดงผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง โรคนี้ค้นพบครั้งแรกที่เมือง มินามาตะ จังหวัดคูมาโมโตะ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อ 1 พฤษภาคม พ. ศ. 2499 โดยเกิดจากการทิ้งน้ำเสียที่มีสารปรอทเจือปนออกมา กว่าที่โรคนี้จะเป็นที่ยอมรับทั้งสาเหตุและโรคนี้ ก็มีการต่อสู้ทางศาลระหว่างกลุ่มธุรกิจกับผู้ป่วยมาเป็นเวลานาน ประวัติ [ แก้] บริษัทชิซโซะเปิดโรงงานเคมีในมินามาตะเป็นครั้งแรกในปี ค.
สับปะรด อุดมไปด้วยสารแอนตี้ออกซิแดนท์ อันได้แก่ วิตามินซี เบต้าแคโรทีน และแมงกานีสที่จะช่วยป้องกันอันตรายจากอนุมูลอิสระที่จะทำลายโครงสร้างของเซลล์ผิวหนัง กินบ่อยๆ จะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกายได้ดีอีกด้วย โดยผสมน้ำสับปะรด น้ำผึ้ง น้ำสะอาดคนให้เข้ากัน พอกให้ทั่วบริเวณใบหน้ายกเว้นบริเวณปากและดวงตาทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาทีแล้วล้างออก สับปะรดช่วยขจัดเซลล์ที่ตายแล้ว ทำให้ผิวเปล่งปลั่ง กระจ่างใส และลดการอักเสบของผิวได้สับปะรดเป็นผลไม้ที่มีวิตามิน A วิตามิน C สูงช่วยต้านอนุมูลอิสระและมีเกลือแร่อีกหลายชนิดช่วยทำให้ผิวหน้าชุ่มชื้นขึ้น 5. ทับทิม ผลไม้รสเปรี้ยวอมหวานที่อัดแน่นไปด้วยวิตามินเอ ซี อีสูง ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นด้านการเสริมสร้างผิวสวย กระจ่างใส ทั้งยังช่วยการทำงานของหัวใจได้เป็นอย่างดี ใครอยากมีผิวขาวสวย หัวใจแข็งแรง แนะนำให้ลองดื่มน้ำทับทิมวันละ 1 แก้วรับรองผิวพรรณสวยขึ้นแน่นอน หรืออาจใช้มาส์กสำเร็จที่สกัดมาจากทับทิมก็ได้ค่ะ 6. มะเขือเทศ จะช่วยชะลอวัยให้อ่อนเยาว์ และยังช่วยป้องกันความเสื่อมของเซลล์ผิวได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะทานเล่นๆ หรือปั่นเป็นน้ำผล ไม้ทานก็ดีต่อสุขภาพผิวเช่นกัน หรือมาส์ก โดยการผสมน้ำมะเขือเทศ 1 ช้อนโต๊ะกับน้ำมะนาวสด 2-4 หยด แล้วใช้สำลีชุบน้ำมะเขือเทศกับมะนาวที่ผสมไว้บนผิวบริเวณที่ต้องการ ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วใช้น้ำอุ่นเกือบเย็นล้างออกเพื่อทำให้รูขุมขนหดตัวลงและบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น 7.
มะนาว เป็นผลไม้ที่มี วิตามินซี สูง ซึ่งวิตามินซีที่ว่านี้ก็จะช่วยให้สาวๆ นั้นมีผิวพรรณที่นุ่มเนียนสดใส และเปล่งปลั่งด้วย โดยผสมน้ำมะนาวครึ่งลูกและดินสอพอง 4-5 เม็ด นำดินสอพองและมะนาวมาผสมให้เข้ากัน จะได้ครีมที่เหนียวข้น พอกทิ้งไว้ประมาณ 10 – 15 นาทีก่อนเข้านอน และล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำสัปดาห์ละประมาณ 3 – 4 ครั้ง จะทำให้หน้าใสมากขึ้น หรือผสมน้ำมะนาว 1 ช้อนชา และน้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ นำส่วนผสมมาคนให้เข้ากัน ทาให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15 – 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำแค่อาทิตย์ละ 1 ครั้ง ก็จะทำให้ใบหน้าอ่อนวัย ใส่เปล่งปลั่งค่ะ 8. ฝรั่ง มีวิตามินซีมาก รวมถึงมีวิตามินเอและโพแทสเซียมในปริมาณสูง ช่วยขับสารพิษจนทำให้ผิวมีสุขภาพดีไร้ริ้วรอยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย โดยนำเนื้อฝรั่งมาบดให้ละเอียด แล้วพอกหน้า จะช่วยป้องกันผิวเหี่ยวย่น วิธีแก้จุดสัมผัสที่หยาบกร้าน ถ้าคุณมีผิวที่กร้านจากการสัมผัสกับสิ่งต่างๆ ตลอดเวลาทำให้ผิวหนังแห้งสากได้ 9. แตงโม มีทั้งแร่ธาตุและวิตามินหลากหลายชนิดที่มีอยู่มากมาย ช่วยบำรุงผิวพรรณของสาวๆ ช่วงล้างไต และของเสียขับปัสสาวะในร่างกาย สามารถมาส์กได้โดยนำแตงโมมาฝานให้เป็นชิ้นบางๆ จากส่วนที่แดงที่สุด จากนั้นให้นำชิ้นแตงโมเหล่านั้นมาแปะให้ทั่วใบหน้า ทิ้งเอาไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด 10.
ส้ม ส้มอุดมไปด้วยเส้นใยธรรมชาติ วิตามินซี เกลือแร่ และคอลลาเจนสูงทำให้ผิวพรรณมีความยืดหยุ่น และมีน้ำมีนวล เปล่งปลั่ง ชุ่มชื้นขึ้น โดยนวดเปลือกส้มแล้วสับให้ละเอียด จากนั้นนำไปทาบริเวณใบหน้า คอ และไหล่แล้วปิดทับด้วยผ้าบางๆ ทิ้งไว้ 15 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น เสร็จแล้วใช้ครีมบำรุงผิวตามปกติ สูตรนี้จะช่วยให้ความชุ่มชื้นกับผิวหน้าได้มากเลยทีเดียว หรือ ผสมเนื้อส้ม 1 ผล กับ โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย นำมาปั่นรวมกับโยเกิร์ต โดยไม่ต้องปั่นระเอียดมากนัก นำส่วนผสมที่ได้มาพอกให้ทั่วใบหน้า เว้นรอบดวงตาและริมฝีปากเอาไว้ 10-15 นาที แล้วล้างออก 2. แอปเปิ้ล แอปเปิ้ล อุดมไปด้วยเพคตินที่ช่วยทำให้เล็บแข็งแรง ซึ่งจะมีวิตามินซีที่สามารถช่วยให้ผิวพรรณสวย เปล่งปลั่ง และยังเป็นผลไม้ที่ทานแล้วไม่ทำให้อ้วนอีกด้วย โดยนำแอปเปิ้ลไม่ปอกเปลือก 1 ผล น้ำผึ้งแท้ 1 ช้อนโต๊ะ นำมาปั่นให้ละเอียดพอกให้ทั่วใบหน้าที่ล้างสะอาดแล้ว ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกทำเป็นประจำ สัปดาห์ละครั้งแอปเปิ้ลจะช่วยดูดซับสิ่งสกปรกที่อุดตันตามรูขุมขนและลดเลือนจุดด่างดำ ส่วนน้ำผึ้งช่วยให้หน้านุ่มเนียนกระจ่างใสขึ้น 3.
นิทานล้านนา เรื่อง ปุ๋ยลำไย ลุงทาเป็นชาวสวน แกทำสวนลำไยกว้างขวาง ในฤดูลำไยออกดอกออกผล แกมีความสุขใจที่สุด ดังนั้นตลอดวันแกจะขลุกอยู่แต่ในสวนลำไยตลอดเวลา ลุงทาจะคอยเอาใจใส่ดายหญ้า พรวนดิน และใส่ปุ๋ยรดน้ำ ครั้นฤดูร้อนย่างเข้ามาทางเทศบาลเบื่อสุนัข ลุงทาจะชื้อซากสุนัขเหล่านั้นจากพนักงาน แล้วนำเอาไปฝั่งไว้ที่โคนต้นลำไยต้นละตัว การที่แกทำเช่นนี้ทำให้สวนลำไยของแกงอกงามยิ่งนัก ที่มา Read the rest of this entry »