การออมเงินเป็นเรื่องที่สำคัญมากยิ่งกว่าการวางแผนหลังเกษียณ การมีเงินสำรองฉุกเฉินทำให้ชีวิตของเรามีอิสระ คล่องแคล่ว และมีทางเลือก ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มก่อตั้งบริษัท หรือการทำอาชีพอิสระ เงินสำรองฉุกเฉินช่วยให้เราตั้งตัวและสามารถดูแลตัวเองได้โดยปราศจากความกังวลใดๆ การเริ่มต้นเร็ว ทำให้มีนิสัยการออมและมีโอกาสน้อยมากที่เราจะไม่มีเงินสำรองในช่วงเวลาฉุกเฉิน นี่คือเคล็ดลับเล็กๆน้อยๆ สำหรับการออมเงินอย่างไร ให้ประสบความสำเร็จ ฉันควรต้องออมเงินเท่าไหร่ดีนะ? เคล็ดลับการออมเงินนั้นไม่มีวิธีการที่เฉพาะเจาะจงแต่ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง ยกตัวอย่างเช่น ถามตัวเองว่าเราเริ่มออมเงินเมื่อไหร่และเป้าหมายของเราคืออะไร แต่หัวใจสำคัญ คือ เราต้องรู้ว่าเราออมเงินเพื่ออะไร เพื่อให้เราสามารถแบ่งส่วนสำหรับการออมได้ มีแอปพลิเคชันมากมายที่ช่วยให้การออมเงินเป็นเรื่องง่าย โดยช่วยให้เรารู้ความเคลื่อนไหวทางการเงิน และแบ่งค่าใช้จ่ายต่างๆออกเป็นหมวดหมู่ ไม่ว่าจะเป็น ค่าอาหาร ค่าเดินทาง หรือค่าเสื้อผ้า แอปพลิเคชันเหล่านี้ช่วยให้เรารู้ถึงรายจ่ายที่เราใช้ไปมากที่สุดได้อย่างรวดเร็ว แอปพลิเคชัน อาทิ Money Lover, Money Manager และ Piggipo.
อายุ 20 ปีเป๊ะๆ เลยค่ะ เรียนอยู่ ควรมีตังค์เก็บเท่าไหร่ดีคะ รู้สึกอยากมีเงินเก็บ ปกติไม่เคยเก็บเลยค่ะ มีเท่าไหร่ ใช้เท่านั้น เคยคุยกับเพื่อนที่มีฐานะหน่อย เขาบอกเราว่าปีเดียวก็ได้หนึ่งแสนแล้ว เราแบบ โห ขนาดนั้นเลยหรอ หนึ่งแสนสำหรับเราเยอะมากเลยค่ะ เพื่อนๆว่าควรมีตังเก็บเท่าไหร่ดีคะ แสดงความคิดเห็น
ไม่ซื้อน้ำเปล่า ที่บ้านเรามีเครื่องกรองน้ำ และเวลาคุณพ่อไปเติมน้ำมัน เติมแก๊ส จะได้น้ำเปล่าฟรีมามาก ทั้งขวดเล็ก ขวดใหญ่ เราเป็นคนดื่มน้ำเก่ง ทำให้ติดการพกขวดน้ำ และนำไปเติมที่ตู้กดน้ำตลอด การพกขวดน้ำทำให้ประหยัดเงินหลักหลายสิบบาทต่อวันไปได้แบบง่ายๆ เลย 4. ไม่เที่ยวเลย ไม่แน่ใจว่าจะเป็นข้อดีหรือข้อเสีย เพราะเวลาถึงวันหยุด เราจะอยากอยู่บ้านพักผ่อนมากกว่าออกไปเที่ยวข้างนอก จะไปก็ต่อเมื่อไปเที่ยวด้วยกันทั้งบ้านเท่านั้น และเป็นคนที่ไม่ค่อยแต่งหน้า แต่งตัว ดังนั้นเราก็จะไม่มีค่าใช้จ่ายจากการซื้อเสื้อผ้าและเครื่องสำอางเช่นกัน แต่หากจำเป็นจริงๆ จะใช้เครื่องสำอางของน้อง และเสื้อผ้าของคุณแม่ โชคดีที่มีน้องสาวโทนสีผิวเดียวกัน และมีคุณแม่ที่แต่งตัววัยรุ่นมาก ขนาดตัวเท่ากันจึงสามารถใส่ด้วยกันได้ 5. ซื้อของขวัญให้ตัวเองปีละหน เราประหยัดเงินในเรื่องค่าใช้จ่ายทั่วไป แต่จะยอมเสียเงินในเรื่องของสุขภาพ เราเป็นคนที่เดินวันละ 5 กิโลเมตรเป็นอย่างต่ำ และเคยเกิดอุบัติเหตุกล้ามเนื้อฉีกบริเวณขาข้างขวา ทำให้ไม่สามารถใส่รองเท้าพื้นแข็งเดินได้ เพราะจะทำให้เจ็บกล้ามเนื้อส่วนที่ฉีกมาก ดังนั้นเราจะซื้อรองเท้าที่มีการ support ที่ดี ปีเว้นปี สลับกับกระเป๋าเป้ เพราะเราแบกของหนัก ขาดไปหลายใบ ดังนั้นรองเท้ากับกระเป๋า จะเป็นของแค่สองสิ่งที่เรายอมจ่ายเงินหลักพัน 6.
หนึ่งในเป้าหมายในการเก็บเงินของลูกจ้างทั่วๆ ไปรวมถึงมนุษย์เงินเดือนนั้นก็คงจะหนีไม่พ้นเป้าหมายในการวางแผนเก็บออมเพื่อยามเกษียณ เพราะในวันหนึ่งเมื่อเรามีอายุครบตามกำหนดในการสิ้นสุดระยะเวลาทำงาน เช่น เกษียณเมื่ออายุครบ 60 ปี หน่วยงานต่างๆที่เราทำงานอยู่จะปลดเราจากการจ้างงาน ซึ่งรายได้จากการทำงานไม่ว่าจะเป็น ค่าจ้าง เงินเดือน หรือโบนัสนั้นก็จะไม่มีอีกต่อไป อย่างไรก็ตามหลังจากที่ทุกคนเกษียณอายุการทำงานแล้ว อย่าลืมว่าเรายังคงต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปในโลกนี้อีกหลายปี ข้อมูลจากองค์การสหประชาชาตินั้นได้ประเมินว่า ในปี 2020 อายุเฉลี่ยของชาวไทยนั้นอยู่ที่ 77. 19 ปี และในอีก 30 ปีข้างหน้า อายุเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้นเป็น 82. 36 ปี นั่นหมายความว่าหากเราเกษียณตอนอายุ 60 ปี ก็มีแนวโน้มว่าเราจะต้องใช้ชีวิตอยู่อีกประมาณ 20 ปี ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวเราจะไม่มีรายได้จากการทำงาน แต่ทุกคนจะยังมีค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตอยู่ และ สิ่งที่เราจะต้องเตรียมให้พร้อมสำหรับอีก 20 ปีนั้นก็คือ "การวางแผนเงินเก็บเอาไว้ใช้ในยามเกษียณ" หากเราต้องการคำนวณว่า ช่วงอายุของเราในปัจจุบันนั้นควรเก็บเงินเท่าไหร่ เพื่อให้เพียงพอต่อยามเกษียณ สามารถคำนวณได้ดังนี้ 1.
38 บาท ในช่วงอายุอายุ 40 ปี ควรจะมีเงินเก็บจำนวน 4, 044, 822. 31 บาท ในช่วงอายุอายุ 50 ปี ควรจะมีเงินเก็บจำนวน 5, 999, 206. 1 บาท แต่ถ้าหากเราพิจารณาจากตารางนี้แล้ว จะเห็นได้ว่า มีความเป็นไปได้ยาก เนื่องจากคนที่อยู่ในวันทำงานอายุ 30 ปี หากจะต้องมีเงินเก็บต่อเดือนถึง 18, 888 บาท อาจจะต้องเป็นพนักงานประจำที่มีเงินเดือน 40, 000 - 50, 000 บาทขึ้นไปตั้งแต่เรียนจบตอนอายุ 22 ปี เพราะฉะนั้นแล้วการออมเงินผ่านบัญชีเงินฝากธนาคารที่อัตราผลตอบแทน 1% เป็นการวางแผนเกษียณและเก็บเงินเอาไว้ใช้ที่มีความเป็นไปได้ยากทีเดียว 3.
การเก็บออม เราเรียนสาขาการเงิน แต่ในตอนปี 1 ยังไม่มีความรู้ใดๆ เกี่ยวกับการลงทุนเลย ดังนั้นการเก็บเงินแสนแรกของเรามาจากการออมปกติ โดยตอนแรก เราจะนำเงินที่เก็บมาได้ทั้งเทอมไปซื้อสลากออมสินและสลากธ. ก. ส.
การรู้ถึงรายรับและรายจ่ายของเรา ช่วยให้เราสามารถจัดการกับงบประมาณในการออมของเราได้ สูตรการคำนวณ50/30/20 เป็นวิธีการเริ่มคำนวณที่ง่าย ที่เราสามารถทำได้ แม้ในขณะที่เงินเดือนของเราเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ โดยรายรับครึ่งหนึ่งของเราควรใช้จ่ายไปกับสิ่งที่จำเป็นจริงๆ ตัวอย่าง เช่น ค่าเช่า และใบแจ้งหนี้ต่างๆ 30% สำหรับสิ่งที่เราต้องการ และ 20% สำหรับการออมเงิน หรือการจ่ายหนี้สิน เครื่องมือที่มีประโยชน์อีกอย่างหนึ่ง ที่ช่วยในเรื่องเงินออมของเรา คือ เครื่องคำนวณสำหรับการออมเงิน โดยมีให้เลือกมากมาย.
จริง ๆ แล้ว การจะบอกว่าคนเราควรจะมี "เงินเก็บ" เท่าไหร่นั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะแต่ละคนล้วนมีภาระค่าใช้จ่าย และเป้าหมายทางการเงินที่ไม่เหมือนกัน การวางแผนทางการเงินและเริ่มลงมือสะสมเงินเก็บจะต้องเริ่มจากการทำสิ่งที่สำคัญที่สุด อย่างการวางเป้าหมายทางการเงินก่อนเป็นอันดับแรก ทำงานมาตั้งหลายปี เงินก็เก็บมาตั้งหลายปี ส่วนอายุจะเข้าเลข 30 แล้ว มี "เงินเก็บ" เท่านี้พอหรือยังนะ?
กระทู้คำถาม การออมเงิน การลงทุน การเงิน อายุ20 ต้องมีเงินเก็บเท่าไหร่? 0 1 สมาชิกหมายเลข 5026048 สมาชิกหมายเลข 5026048 ถูกใจ
80 บาท เพื่อวันเกษียณในอีก 30 ปี กลุ่มอายุ 40 ปี จะต้องเตรียมเงิน 9, 480, 732. 60 บาท เพื่อวันเกษียณในอีก 20 ปี กลุ่มอายุ 50 ปี จะต้องเตรียมเงิน 8, 582, 783. 40 บาท เพื่อวันเกษียณในอีก 10 ปี 2.