การ Boost Post ใน Facebook

  1. Boost Posts VS Facebook Ads ต่างกันยังไง - ฟีนิกซ์ มีเดีย

Placement คือ การเลือกว่าจะให้โฆษณาไปแสดงผลในส่วนไหนของ Platforms เลือก Device โดยเลือกได้เป็นให้แสดงโฆษณานี้เฉพาะการใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์หรือบนโทรศัพท์ แนะนำให้เลือกทั้งคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์นะคะ เลือก Platforms ที่ต้องการให้โฆษณาแสดงผล เลือกได้ทั้ง Facebook, Instagram, Messenger ผู้ใช้งานครั้งแรกแนะนำให้เลือกเป็น Facebook นะคะ เมื่อเลือกทุกขั้นตอนครบแล้ว ให้กดปุ่ม Next ได้เลยค่ะ ขั้นตอนต่อไปเป็นขั้นตอนสุดท้ายแล้วนะคะ คือ การเลือกโพสต์ที่เราจะใช้ลงโฆษณาค่ะ 3. Ad name คือ ตั้งชื่อโฆษณา 2. Identity คือ การเลือกเพจที่เราต้องการยิงแอดลงโฆษณา 3. Ad setup คือ เลือกโพสต์สินค้าที่จะใช้ลงโฆษณา โดยจะแสดงโพสต์ของตามเพจที่เราเลือกไว้ในข้อที่ 1 ขึ้นมาให้ค่ะ Create Ad คือ สร้างโพสต์ใหม่ที่ไม่มีในหน้าเพจ เพื่อใช้ในการลงโฆษณา Use existing Post คือ การเลือกโพสต์จากหน้าเพจ มาใช้ลงโฆษณา Use Mockup คือ เลือกใช้แบบจำลองของสินค้าแทนรูปภาพจริง ในการลงโฆษณา 3.

Boost Posts VS Facebook Ads ต่างกันยังไง - ฟีนิกซ์ มีเดีย

การ boost post ใน facebook live

หลังจากที่เราได้ทำความรู้จักทั้ง Boost Post และ Facebook Ads กันไปแล้ว เรามาดูกันดีกว่าครับว่ามีอะไรที่เป็นข้อแตกต่างระหว่าง Boost Post และ Facebook Ads ที่สำคัญบ้าง ซึ่งจะทำให้เราตัดสินใจเลือกใช้งานได้ง่ายมากขึ้น Boost Post สะดวกกว่า แต่ Facebook Ads ทำอะไรได้มากกว่า?

4 ยอดการชมวิดีโอ (Video View) คือ เป้าหมายในการเพิ่มยอดเข้าชมวิดีโอที่เราได้ทำการโพสต์ไว้ สำหรับเป้าหมายที่มีโอกาสกดดูสูง ตัวอย่าง Lead Ads ของ Facebook Ads ที่มา 2. 5 ข้อมูลลูกค้า (Lead Generation) คือ เป้าหมายในการเก็บข้อมูลของผู้ใช้ ที่มีโอกาสเป็นไปได้ในการกลายเป็นลูกค้าสูง เช่น การยิงโฆษณา Facebook Ads เพื่อให้เกิดการลงทะเบียน 2. 6 ข้อความ (Message) คือ เป้าหมายในการกระตุ้นให้เกิดการส่งข้อความเข้ามาถามรายละเอียดต่าง ๆ ของสินค้า และ บริการ ตัวอย่าง Facebook Ads เพื่อกระตุ้นให้ส่งข้อความ 3. การกระทำบางอย่างที่เราต้องการ (Conversion) 3. 1 การกระทำตามที่เราต้องการ (Conversions) เป้าหมายนี้คือการเพิ่มยอดการทำอะไรสักอย่างที่เราต้องการให้ลูกค้า หรือ ผู้ใช้คนนั้น ๆ ทำ ซึ่งเป็นได้ทั้ง การเพิ่มสินค้าลงตะกร้า การลงทะเบียน และ การซื้อ เป็นต้น 3. 2 ยอดขายในแคตตาล็อก (Catalogue Sales) คือ เป้าหมายในการเพิ่มยอดขาย ของสินค้าที่อยู่ในหน้าแค็ตตาล็อกบน Facebook 3. 3. เพิ่มยอดการเข้าร้านค้า (Store Traffic) คือ เป้าหมาย ในการเพิ่มยอดผู้เข้าชมร้านค้า ซึ่งมักจะเหมาะกับการยิงโฆษณา ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง ทั้งนี้ ในการเริ่มต้นยิงโฆษณา Facebook Ads เราสามารถทำได้ผ่านการใช้งานเครื่องมือที่ชื่อว่า " Facebook Ads Manager" ซึ่งเป็นเครื่องมือที่จะทำให้เราสามารถบริหารจัดการ สร้างโฆษณา และระบุว่ากลุ่มเป้าหมายคือใครได้ในเครื่องมือเดียว ตัวอย่างหน้าตาเครื่องมือ Facebook Ads Manager Boost Post กับ Facebook Ads แตกต่างกันอย่างไร?

การ boost post ใน facebook fan

"Facebook Ads" คือ การลงโฆษณาออนไลน์บน Facebook ที่เราสามารถปรับแต่งได้ตามเป้าหมายที่ต้องการ ซึ่ง Facebook Ads ก็จะประกอบไปด้วยเเป้าหมายหลัก ๆ 3 ส่วนได้แก่ การรับรู้ (Awareness) การตัดสินใจ (Consideration) และ การกระทำที่เราต้องการ (Conversion) ซึ่งทั้ง 3 ส่วนก็สามารถปรับแต่งและแบ่งได้เป็นเป้าหมายย่อย ๆ ได้อีกอันประกอบไปด้วย 1. การรับรู้ (Awareness) 1. 1 การรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness) คือ การเพิ่มการรับรู้ ให้แบรนด์ของเราเป็นที่รู้จักแพร่หลายมากขึ้น 1. 2 การเข้าถึง (Reach) คือ เป้าหมายในการแสดงโฆษณาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยจะแสดงให้เห็นแค่กลุ่มคนที่เรากำหนดไว้เป็นกลุ่มเป้าหมาย 2. การตัดสินใจ (Consideration) 2. 1 ยอดเข้าชมเว็บไซต์ (Traffic) คือ เป้าหมายในการเพิ่มยอดผู้เข้าชมเว็บไซต์ ที่เราได้ระบุ URL เอาไว้ เช่น บล็อก หรือ หน้าเว็บไซต์ขายสินค้า 2. 2 การมีส่วนร่วม (Engagement) คือ เป้าหมายในการเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ที่พบเห็นโฆษณา ซึ่งผลลัพธ์ส่วนใหญ่ที่ได้มาจะเป็น การกดไลก์ คอมเมนต์ แชร์ 2. 3 การติดตั้งแอปฯ (App Installation) คือ เป้าหมายในการเพิ่มยอดการติดตั้งแอปฟลิเคชั่น 2.

การ boost post ใน facebook page
  1. การ boost post ใน facebook pictures
  2. Boost Posts VS Facebook Ads ต่างกันยังไง - ฟีนิกซ์ มีเดีย
  3. การ boost post ใน facebook fan
  4. การ boost post ใน facebook 2017
  5. เติม พง ษ์ แสน สุภา
  6. สังคมน่ารู้กับครูขวัญ – ยินดีต้อนรับสู่โลกแห่งการเรียนรู้
  7. Failing in Love (2019) ตอนที่ 1-10 ซับไทย [จบ] - Play-SeriesHD

Campaigns 1. Overview ของบัญชียิงโฆษณา เป็นหน้าแสดงผลลัพธ์ของโฆษณาที่เราซื้อไว้กับ Facebook ค่ะ เมื่อเราลงโฆษณาสำเร็จแล้ว การวัดผลโฆษณาต่าง ๆ จะรวมอยู่ที่หน้านี้ 2. กด Campaigns > + Create เพื่อสร้างแอดหรือโฆษณาของเราค่ะ 3. Create New Campaign และเลือก Objective หรือวัตถุประสงค์ในการลงโฆษณาชุดนี้ โดยระบบ AI ของ Facebook จะไปค้นหาผู้ใช้งานที่มีแนวโน้มเป็นกลุ่มเป้าหมายของเราให้เอง ในปัจจุบัน Facebook ได้แบ่ง Objective ให้เลือกอยู่ 3 กลุ่มดังต่อไปนี้ Awareness คือ เน้นไปที่การทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก เช่น การกดไลก์ คอมเม้นต์ โฆษณาของเรา Consideration คือ สร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมาย โดยยึดการเชื่อมต่อกับลูกค้าเป็นหลัก Conversion คือ มุ่งเป้าหมายไปที่สร้างยอดขายให้กับธุรกิจของเรา เมื่อเลือก Objective ที่เราต้องการได้แล้ว ระบบจะให้เราตั้งชื่อแคมเปญ จากนั้นคลิก Continue เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนต่อไปค่ะ 4. Campaign Details จะเป็นหน้าบอกรายละเอียดของแคมเปญและการตั้งเพิ่มเติม เช่น ทดสอบ A/B test (ซึ่งเป็นการตั้งค่าที่ละเอียดและ advance มากเกินไปสำหรับผู้เริ่มต้น เราสามารถเว้นไว้ก่อนได้ค่ะ), ใส่ Budget หรือจำนวนเงินที่เราต้องการใช้จ่ายไปกับแคมเปญนี้ โดยตั้งได้ 2 แบบค่ะ Daily Budget คือ งบประมาณที่จะใช้จ่ายต่อวันในการลงโฆษณา Lifetime Budget คือ การตั้งงบยิงแอดลงโฆษณาแบบตลอดอายุ Facebook จะคำนวณให้ตามวันที่เราตั้งค่าเปิดปิดโฆษนาให้อัตโนมัติค่ะ เมื่อใส่วัตถุประสงค์ของโฆษณาเรียบร้อยแล้วก็กด Next เพื่อไปกำหนดกลุ่มเป้าหมายของเราได้เลยค่ะ 2.

ดังนั้นการ Boost post จะช่วยให้มีคนเห็นโพสต์ของคุณเป็นจำนวนมากเพราะมันจะขึ้นไปใน News feed ของพวกเขา โดยปกติเราจะใช้การ Boosted posts เมื่อเราอยากได้การตอบรับจากผู้ชม เช่น likes, shares และ comments.

Facebook เป็นแพลตฟอร์มที่มีจำนวนผู้ใช้มากถึง 2. 6 พันล้านคนทั่วโลก เป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกและมีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการของผู้ใช้ กลายเป็นพื้นที่ที่แบรนด์และธุรกิจไม่อาจมองข้ามไปได้ เนื่องจากมีแบรนด์และธุรกิจจำนวนมากในเฟสบุ๊ค การแข่งขันด้านการตลาดจึงสูง การเข้าถึงผู้ใช้จำนวนมากกลายเป็นความท้าทาย การบูสต์โพสต์ (Boost Post) บนเฟสบุ๊คจึงกลายเป็นตัวเลือกแรกของแบรนด์และธุรกิจ วันนี้ Thumbsup ขอเสนอเคล็ดลับในการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ Boost Post เพื่อให้แคมเปญของคุณสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้น 1. กำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน ก่อนการทำแคมเปญการตลาดแน่นอนว่าต้องกำหนดเป้าหมายก่อน ซึ่งอาจมีวัตถุประสงค์หลายอย่าง เช่น ต้องการเพิ่มการมีส่วนร่วม (Engagement) ต้องการเพิ่มการรับรู้ (Awareness) เพิ่มยอดไลก์เพจ, เพิ่มจำนวนการเข้าชมเว็บไซต์ การกำหนดเป้าหมายจะช่วยให้วัดและประเมินประสิทธิภาพได้ง่ายขึ้น หากไม่ประสบความสำเร็จก็สามารถวัดได้ว่าควรปรับปรุงในส่วนไหน ที่สำคัญเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยประหยัดงบประมาณในการทดสอบโฆษณาในรูปแบบต่าง ๆ 2. เลือกโพสต์ที่เหมาะสม ไม่จำเป็นต้องบูสต์ทุกโพสต์ แต่ควรบูสต์โพสต์ที่มีประสิทธิภาพที่ดี เช่น โพสต์ที่มียอด Engagement, Reach สูง หรือเกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้โฆษณามีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น 3.

การเลือกจุดหมายปลายทางของโฆษณา ถึงแม้ว่าในการ Boost Post เราจะสามารถกำหนดได้ แต่ก็เป็นแค่การกำหนดปลายทางง่าย ๆ ที่มีแค่เพียงการเลือกให้แสดงผลผ่านหน้า Timeline ของ Instagram และ Facebook เท่านั้น ในขณะที่การทำ Facebook Ads เราจะระบุได้มากกว่า เช่น ความสามารถในการกำหนดให้โฆษณาไปแสดงผลที่ Instagram Stories หรือ อื่น ๆ เป็นต้น 2.

Thu, 12 Aug 2021 06:49:15 +0000